ฝึกอบรมไซโคโชว์เพื่อสิ่งใด
1. เพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขพฤติกรรมขยะ(Un-acceptable Behavior)
ทั้ง นิสัยในการทำงาน (Working Behaviors) และนิสัยในการดำเนินชีวิตประจำวัน (Social Behaviors) อันเป็นนิสัยส่วนตัวที่บกพร่องของมนุษย์ซึ่งจัดการด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล ไปสู่การลดละเลิกพฤติกรรมขยะนั้นๆแล้วสร้างพฤติกรรมใหม่ที่พึงประสงค์ขึ้นมา แทนได้อย่างไร้ข้อจำกัด และทุกคนจะยอมปรับเปลี่ยนมันด้วยจิตสำนึกแท้จริงของตนเอง
2. เพื่อช่วยให้ผู้เข้าฝึกอบรมรู้จักตนเองมากขึ้น
ด้วยศาสตร์และศิลป์ของการถ่ายทอดพฤติกรรมวิธี “ไซโคโชว์” จะช่วยให้ผู้เข้าอบรมค้นพบสิ่งสำคัญของตนประการหนึ่ง คือ นิสัยทางอารมณ์ของตนเอง นิสัย ทางอารมณ์ในมนุษย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน และนิสัยทางอารมณ์นี่เองคือ ตัวการขับเคลื่อนการนึกคิดและการกระทำต่างๆในชีวิตประจำวันของมนุษย์ ซึ่งมีทั้งด้านบวกและลบ โดยที่การฝึกอบรมปฏิบัติการ “ไซโคโชว์” นี้ จะช่วยให้มนุษย์เกิดการเรียนรู้นิสัยแสดงออกทางอารมณ์ของตนได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้เท่าทันอารมณ์รู้สึกนึกคิดที่ไม่ถูกต้องหรืออารมณ์ไม่สมดุลจนสามารถ บริหารอารมณ์ของตนเอง ที่จะนำไปสู่การแสดงออกหรือการกระทำพฤติกรรมด้านบวกต่างๆได้ในที่สุด
3. เพื่อช่วยให้ผู้เข้าฝึกอบรมค้นพบศักยภาพในตนเอง
การเข้าถึงศักยภาพในตนเอง(Potential) ในที่นี้หมายถึง
1 รู้สติปัญญา ทักษะ ความสามารถ และจุดอ่อนด้อยของตนเอง
2 รู้แสดงออกและรู้กระทำในสิ่งที่ตนควรประพฤติปฏิบัติ
3 รู้ละเว้นหรือรู้ละวางในสิ่งที่ตนไม่สมควรประพฤติปฏิบัติ
4. เพื่อช่วยให้ผู้เข้าฝึกอบรมสามารถนำเอาศักยภาพในตนเองออกมาใช้
เมื่อ การฝึกอบรมปฏิบัติการนี้ช่วยให้ผู้เข้าฝึกอบรมค้นพบศักยภาพของตนเองได้แล้ว ยังจะช่วยขยายผลไปสู่การให้ทุกคนขับเคลื่อนมันออกมาใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยความชำนาญ เพราะในกระบวนการฝึกอบรมนี้ จะเน้นที่การฝึกทักษะให้ทุกคนสามารถแสดงศักยภาพของตนออกมาได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องอาศัยสิ่งจูงใจภายนอกใดๆทั้งสิ้น
5. เพื่อช่วยให้ผู้เข้าฝึกอบรมใช้สติปัญญาแทนการใช้อารมณ์รายวัน
การกระทำพฤติกรรมด้วยสติปัญญาแทนการใช้อารมณ์จะช่วยให้มนุษย์และสังคมสุขสงบยิ่งขึ้น
มนุษย์จะฉลาดที่จะเป็นมนุษย์มากขึ้น
มนุษย์จะเป็นคนน่ารักใคร่ น่าศรัทธานับถือของกันและกันมากยิ่งขึ้น
สิ่ง ที่ผู้เข้าฝึกอบรมจะได้เรียนรู้ให้เกิดทักษะดังกล่าวนั้นก็คือ การฝึกความอดทน อดกลั้น และการให้อภัยในการกระทำไม่ถูกต้องของผู้อื่น เพื่อสร้างความสมดุลทางอารมณ์ขั้นสูงของตนเอง ในอันที่จะสามารถใช้สติปัญญาแสดงออกหรือกระทำพฤติกรรมที่ถูกต้อง เหมาะสม และดีงามได้อย่างแท้จริงนั่นเอง
6. เพื่อช่วยให้มนุษย์เข้าถึงพลังอำนาจสูงสุดในตนเองได้
การ เข้าถึงพลังอำนาจสูงสุดในตนเองที่ผู้เข้าฝึกอบรมปฏิบัติการนี้จะเข้าถึงได้ มีหลายอย่าง แต่ที่สำคัญที่สุดที่ไม่มีกระบวนการฝึกอบรมแบบใดๆสามารถทำได้ นั่นคือ การช่วยให้มนุษย์หลุดพ้นจากการตกเป็นทาสทางอารมณ์ของตนเอง เช่น ความอยาก ความไม่อยาก และความไม่รู้ว่าตนอยากหรือไม่อยาก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเงื่อนไขด้านลบที่จะนำไปสู่การแสดงออกหรือกระทำพฤติกรรม ไม่เหมาะสมในชีวิตประจำวันอย่างหลากหลาย ให้สามารถแสดงออกหรือกระทำในสิ่งที่สมควรทำ และสามารถละเว้นไม่แสดงออกหรือกระทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำได้ด้วยจิตสำนึกแท้ จริงของตนเอง
โดยไม่ลงมือทำเพราะอยากทำ
หรือไม่ยอมทำเพราะไม่อยากทำ
มนุษย์ส่วนใหญ่ตกเป็นทาสความอยาก ด้วยเงื่อนไขที่ตรงกันอย่างหนึ่งก็คือ การตกเป็นทาสของสิ่งจูงใจ ตามทฤษฎีการจูงใจ(Motivation) แบบตะวันตกทั้งด้านบวกด้านลบ ที่นิยมปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนานนั่นเอง
จิตสำนึกมนุษย์จึงบกพร่องตกต่ำ จนธรรมะก็ยากยิ่งที่จะเยียวยา!